| ถาม | อธิบายความแตกต่างระหว่างซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) และซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) พร้อมยกตัวอย่างซอฟต์แวร์ในแต่ละประเภท | 
| ตอบ | ซอฟต์แวร์ทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกันที่วัตถุประสงค์การใช้งาน: * ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software): คือซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์และเป็นพื้นฐานให้ซอฟต์แวร์ประยุกต์สามารถทำงานได้ พูดง่ายๆ คือเป็นซอฟต์แวร์ที่เป็น "โครงสร้างพื้นฐาน" ของคอมพิวเตอร์และระบบโดยรวม ตัวอย่าง: ระบบปฏิบัติการ (เช่น Windows, macOS), ไดรเวอร์อุปกรณ์ (Device Drivers), และโปรแกรมยูทิลิตี (เช่น Antivirus, Disk Defragmenter)
 * ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software): คือซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของผู้ใช้งาน หรือเพื่อใช้ในงานที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่าง: โปรแกรมจัดการเอกสาร (เช่น Microsoft Word), โปรแกรมสำหรับเล่นเกม, เว็บเบราว์เซอร์ (เช่น Chrome), และโปรแกรมกราฟิก (เช่น Adobe Photoshop)
 สรุปคือ ซอฟต์แวร์ระบบทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ ส่วนซอฟต์แวร์ประยุกต์ทำให้ผู้ใช้ทำงานได้
 | 
| ถาม | ในการจัดการระบบสารสนเทศขององค์กร ซอฟต์แวร์แบบสำเร็จรูป (Commercial Off-The-Shelf - COTS) และซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเอง (In-house Developed Software) มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง | 
| ตอบ | * ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป (COTS): - ข้อดี: ติดตั้งและใช้งานได้รวดเร็ว, มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นต่ำกว่า, มีการสนับสนุนจากผู้ผลิต, และมีความน่าเชื่อถือสูงเนื่องจากผ่านการใช้งานจากผู้ใช้จำนวนมาก
 - ข้อเสีย: อาจไม่สามารถปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการเฉพาะขององค์กรได้ทั้งหมด, อาจต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานขององค์กรให้เข้ากับซอฟต์แวร์, และมีค่าธรรมเนียมการบำรุงรักษาหรืออัปเกรดอย่างต่อเนื่อง
 * ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเอง (In-house Developed Software):
 - ข้อดี: สามารถปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการทางธุรกิจขององค์กรได้อย่างสมบูรณ์แบบ, เป็นทรัพย์สินทางปัญญาขององค์กร, และมีความยืดหยุ่นในการแก้ไขหรือเพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆ
 - ข้อเสีย: มีค่าใช้จ่ายและเวลาในการพัฒนาสูง, มีความเสี่ยงในการพัฒนาที่ไม่สำเร็จ, และต้องรับผิดชอบในการบำรุงรักษาและให้การสนับสนุนเองทั้งหมด
 การเลือกระหว่างซอฟต์แวร์ทั้งสองประเภทจึงต้องพิจารณาจากขนาดขององค์กร งบประมาณ ความต้องการเฉพาะทางธุรกิจ และทรัพยากรด้านไอทีที่มี
 | 
| ถาม | อธิบายแนวคิดของระบบเปิด (Open-source) และยกตัวอย่างการใช้งานซอฟต์แวร์แบบโอเพนซอร์สในระบบสารสนเทศขององค์กร พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น | 
| ตอบ | แนวคิดของระบบเปิด (Open-source): คือซอฟต์แวร์ที่เปิดเผย รหัสต้นฉบับ (Source Code) ให้บุคคลทั่วไปสามารถนำไปใช้งาน, แก้ไข, และเผยแพร่ต่อได้อย่างอิสระ โดยมักมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำหรือไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และพัฒนาโดยชุมชนของนักพัฒนา ตัวอย่างการใช้งานในองค์กร:
 * ระบบปฏิบัติการ: Linux (เช่น Ubuntu, Red Hat) สำหรับเซิร์ฟเวอร์
 * ฐานข้อมูล: MySQL, PostgreSQL
 * เว็บเซิร์ฟเวอร์: Apache, Nginx
 * โปรแกรมสำนักงาน: LibreOffice
 ข้อดีและข้อเสีย:
 * ข้อดี:
 - ลดต้นทุน: ไม่มีค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์
 - ความยืดหยุ่น: สามารถปรับแต่งซอฟต์แวร์ให้เข้ากับความต้องการเฉพาะขององค์กรได้ เนื่องจากมีรหัสต้นฉบับ
 - ความปลอดภัย: มีนักพัฒนาจำนวนมากช่วยกันตรวจสอบและแก้ไขช่องโหว่ทางความปลอดภัย
 * ข้อเสีย:
 - การสนับสนุน: การสนับสนุนทางเทคนิคอาจไม่เป็นทางการหรือต้องอาศัยการค้นหาในชุมชนออนไลน์
 - ความซับซ้อน: การปรับแต่งหรือบำรุงรักษาอาจต้องอาศัยความรู้ทางเทคนิคที่สูง
 - การรับประกัน: ไม่มีผู้ผลิตที่ให้การรับประกันการทำงานเหมือนซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์
 |